จังหวัดอาโอโมริมีต้นบีชอยู่อุดมสมบูรณ์ดังเช่นเทือกเขาชิราคามิที่เป็นมรดกโลก เนื่องจากเป็นที่ตั้งของป่าบีชบริสุทธิ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก บีชเป็นต้นไม้ที่สามารถอุ้มน้ำได้ดีเยี่ยมจนถูกเรียกว่า “เขื่อนธรรมชาติ” อย่างไรก็ตาม ต้นบีชซึ่งมีน้ำประกอบอยู่ในลำต้นเป็นจำนวนมากนั้น หากจะใช้เป็นวัสดุก่อสร้างโดยใช้เทคนิคแปรรูปงานไม้แบบดั้งเดิมก็มีความบิดเบี้ยวมากเกินไป มักจะเน่าเปื่อยและทำให้แห้งได้ยาก จึงไม่สามารถทำเป็นวัสดุไม้ที่ใช้งานจริงได้
ด้วยเหตุนี้ มันจึงถูกใช้เป็นไม้หมอนรถไฟและฟืนเท่านั้น และในช่วงหลังสงคราม ก็ถูกตัดทิ้งเป็นจำนวนมากเพราะว่าเป็น “ต้นไม้ที่ไร้ประโยชน์”
ผู้ที่ได้เริ่มต้นประยุกต์ใช้ต้นบีชในอาโอโมริอย่างมีประสิทธิภาพ ก็คือสถานีทดสอบทางอุตสาหกรรมประจำจังหวัดอาโอโมริในช่วงปี 1950 (ปัจจุบันคือศูนย์เทคโนโลยีอุตสาหกรรมประจำจังหวัดอาโอโมริ) นั่นเอง
ส่วนเทคโนโลยี BUNACO ได้ถูกคิดค้นขึ้นเมื่อปี 1956
เป็นการคิดค้นขึ้นผ่านการวิจัยร่วมกันระหว่างนายคานาริ ชิโรคุระ ผู้อำนวยการสถานีทดสอบในขณะนั้น และนายฮิโรโนะสุเกะ อิชิโกโอกะ ผู้เป็นช่างเคลือบเครื่องเขิน
เทคโนโลยีที่ปฏิวัติวงการนี้ไม่เพียงแค่ขจัดข้อบกพร่อง เช่น ความยากในการแปรรูปและความบิดเบี้ยวอย่างมากของต้นบีช แต่ยังช่วยให้สามารถประยุกต์ใช้วัสดุไม้ในปริมาณที่น้อยลงเมื่อเทียบกับวิธีการผลิตด้วยการตัดแต่งแบบเดิมได้อีกด้วย
หลังจากนั้น นายโยชิโอะ โมจิซึกิ ซึ่งได้ทำงานด้านการวิจัยของ BUNACO ร่วมกันมาก็ได้ตั้งรากฐานการออกแบบ แล้วในปัจจุบัน บริษัท BUNACO จำกัด (เดิมชื่อบริษัทผลิตเครื่องเขิน BUNACO จำกัด) ได้รับหน้าที่ในด้านการผลิตและจัดจำหน่าย
โรงงานสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในเมืองฮิโรซากิ จังหวัดอาโอโมริ ซึ่งเป็นที่ตั้งของสถานีทดสอบทางอุตสาหกรรมจังหวัดอาโอโมริในช่วงปี 1950 ซึ่งเทคโนโลยี BUNACO ได้รับการพัฒนาขึ้นมาในช่วงนั้น
ที่นี่มีโครงสร้างไม้ที่เปี่ยมด้วยกลิ่นอายซึ่งสร้างขึ้นในช่วงก่อนสงคราม และครั้งหนึ่งเคยถูกนำมาประยุกต์ใช้เป็นคอกม้า
ที่โรงงานสำนักงานใหญ่ในปัจจุบันไม่ได้เปิดรับผู้มาทัศนศึกษา ฯลฯ
โรงงานนี้เป็นโรงงานแห่งที่สองของ BUNACO ซึ่งนำอาคารรกร้างของโรงเรียนประถมเดิมมารีโนเวทแล้วประยุกต์ใช้
“หมู่บ้านนิชิเมยะ” ซึ่งเป็นประตูทางเข้าสู่ “เทือกเขาชิราคามิมรดกโลกทางธรรมชาติ” ซึ่งเป็นป่าบีชบริสุทธิ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกและ “BUNACO” ซึ่งถือกำเนิดขึ้นมาเพื่อประยุกต์ใช้ “ต้นบีช”
เราได้เริ่มต้นการปฏิบัติงานในฐานะโรงงานแห่งที่สองเมื่อปี 2017 โดยการที่มีความสัมพันธ์ระหว่าง “ต้นบีช” เป็นแรงจูงใจ
ที่โรงงานนิชิเมยะ เราได้ดำเนินการให้มีการทัศนศึกษาโรงงานและสัมผัสประสบการณ์การผลิต
ท่อนไม้บีชถูกตัดพร้อมหมุนและแปรรูปให้เป็นแผ่นบาง (แผ่นไม้อัด/ทันปัน) หนา 1 มม. และยาวประมาณ 2 ม.
เฉือนเป็นความกว้างต่าง ๆ ตั้งแต่ 5 มม. ถึง 20 มม. ขึ้นอยู่กับผลิตภัณฑ์ที่ต้องการทำ
พันเทปเพิ่มหลายชิ้นตามขนาดของผลิตภัณฑ์ที่ต้องการทำ
ตอนที่พันเพิ่ม เทปแต่ละชิ้นจะไม่ติดกัน
เป็นกระบวนการที่ต้องใช้ทักษะอันเป็นเลิศของช่างฝีมือ ไม่ว่าจะเป็นการมองวัตถุดิบอย่างทะลุปรุโปร่งและควบคุมการออกแรงอย่างละเอียดอ่อน
ชื่อของ BUNACO ได้ถูกตั้งตามกระบวนการเฉพาะนี้
BUNA (บูนะคือบีชในภาษาญี่ปุ่น) + Coil = BUNACO
อัดขึ้นรูปเทปออกทีละน้อยเพื่อยกรูปทรงขึ้นมาแล้วทำให้มีรูปทรงที่สวยงามในขณะที่คอยปรับ
ตอนที่ขึ้นรูป ช่างฝีมือจะใช้ถ้วยชาเป็นเครื่องมือทำงานเป็นหลัก
นี่เป็นหนึ่งในจุดเด่นที่ไม่เหมือนใครซึ่งยังคงไม่เปลี่ยนแปลงนับตั้งแต่วิธีการผลิตของ BUNACO ได้ถือกำเนิดขึ้นมา
อุดช่องว่างที่เกิดจากการซ้อนเทป นำมาขัด แล้วลงมือทำสี
อุดช่องว่างเล็ก ๆ ไม่ถึง 1 มม. อย่างประณีตบรรจง แล้วค่อย ๆ ขัดมันทีละช่อง
การทำขั้นตอนนี้ซ้ำไปซ้ำมาจะทำให้ผลิตภัณฑ์ BUNACO ที่มีคุณภาพสูงมากขึ้นเกิดขึ้นมา
ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อผ่านกระบวนการต่าง ๆ อย่างการขัด อุดช่องว่าง และทำสี ผลิตภัณฑ์ BUNACO ก็จะเสร็จสมบูรณ์
โปรดใช้มือของท่านหยิบจับเนื้อสัมผัสที่อ่อนโยนแล้วสัมผัสถึงความงามของผลิตภัณฑ์ BUNACO ซึ่งสร้างสรรค์ขึ้นมาทีละชิ้น ๆ ด้วยมือของช่างฝีมือ
ด้วยการแปรรูปไม้บีชซึ่งมีจุดอ่อนอยู่ที่มีน้ำประกอบอยู่มากให้เป็นเทปบาง ๆ จะสามารถทำให้แห้งได้อย่างเพียงพอ เป็นการเอาชนะจุดอ่อนของไม้บีชได้
นี่เป็นวิธีการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมซึ่งใช้ทรัพยากรไม้น้อยกว่าเมื่อเทียบกับวิธีการผลิตที่ต้องเฉือนไม้ทิ้ง เช่น การใช้แท่นหมุนในการเฉือนไม้